การปลูกผม คือ การนำรากผมปลูกลงบนหนังศีรษะในตำแหน่งที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง หนังศีรษะล้าน ศีรษะเถิก โดยผมใหม่ที่ขึ้นมาจะอยู่ในตำแหน่งที่นำไปปลูกอย่างถาวร สามารถหลุดร่วงได้ตามวงจรของผม และสามารถขึ้นใหม่ได้เหมือนกับผมจริง รากผมดังกล่าวเป็นรากผมของผู้ที่เข้ารับการปลูกผมเอง โดยแพทย์จะนำรากผมช่วงท้ายทอย หรือช่วงเหนือกกหูออกมา แล้วปลูกไปยังตำแหน่งใหม่ เช่นปลูกผมหน้าผาก ปลูกผมกลางหัว ซึ่งการปลูกผมในปัจจุบันที่นิยนปลูกมีด้วยกัน 4 เทคนิค

 

1. ปลูกผมด้วยเทคนิค FUE ( Follicular Unit Extraction )

การปลูกผม FUE (FUE hair Transplant) คือ การปลูกผมโดยการย้ายเซลล์รากผมตรงส่วนท้ายทอยแล้วนำเอารากผมมาปลูกบริเวณที่มีปัญหาโดยใช้เครื่องมือพิเศษคือ หัวเจาะอัตโนมัติ ที่มีความแม่นยำและรวดเร็ว ผลลัพธ์ที่ได้สูงถึง 90-95 % ผมขึ้นจริงแลดูเป็นธรรมชาติ แถมยังอยู่ได้ถาวรเนื่องจากรากผมจากบริเวณท้ายทอยมีความแข็งแรงที่สุดและไม่ไวต่อฮอร์โมนเพศชายจึงไม่หลุดร่วง

เทคนิคปลูกผมด้วยวิธี FUE ข้อดีคือไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ ไม่มีแผลเย็บ ทำเสร็จสามารถกลับบ้านได้ทันที เหมาะกับคนที่ศีรษะล้าน หัวเถิก ผมบางหรือเว้าเป็นรูปตัว M ปลูกได้สูงสุด 2,000 – 2,500 กราฟ หรือเท่ากับเส้นผม 5,000 เส้น

2. ปลูกผมด้วยเทคนิค Long Hair FUE

สุดยอดนวัตกรรมปลูกผมไร้รอยแผลเย็บ “ไม่ต้องโกนศีรษะ ไม่ต้องตัดผมสั้น” เป็นเทคนิคปลูกผมที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เห็นความหนาแน่นของเส้นผมทันที โดยการปลูกผมแบบ Long Hair FUE จะใช้เครื่องมือหัวเจาะพิเศษที่มีขนาดเล็กมากเจาะและดึงรากผมออกมาปลูกขณะที่ผมยาวได้เลยไม่ต้องตัดผมสั้น สร้างแนวผมใหม่ได้ตามต้องการ

เห็นผมที่ปลูกได้ทันทีหลังทำโดยที่จะมองไม่เห็นแผลที่ฝังกราฟรวมทั้งแผลเจาะกราฟจากด้านหลังซึ่งถือเป็นข้อดีเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่อยากให้ใครรู้ว่าได้ทำการปลูกผมมา ใช้เวลาพักฟื้นไม่นานกลับบ้านได้ทันทีหลังปลูกเสร็จ แผลแห้งเร็ว หลังปลูกสามารถรับรู้ถึงความหนาแน่นของเส้นผมแบบทันตาเห็น เทคนิคนี้เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผมบาง ปลูกบริเวณไรผม หรือเหมาะ สำหรับคนที่ต้องการปลูกผม แต่ไม่อยากตัดผม สวย หล่อ ได้ในทันที

3. ปลูกผมด้วยเทคนิค Direct Hair Implantation (DHI)

DHI คือ การปลูกผมโดยใช้เครื่องมือเฉพาะทางที่ชื่อว่า “ DHI Implanter ” ในการปักและปลูกภายในครั้งเดียว ด้วยความพิเศษของหัวเจาะที่มีขนาดเล็กมากเพียงแค่ 0.6 – 0.8 มล. จึงทำให้ปลูกผมได้ถี่แน่น และมีความละเอียดมากแพทย์สามารถควบคุมระดับความลึก องศาทิศทางของรากผมได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลเป็น เทคนิคนี้เหมาะสำหรับคนมีศีรษะล้านมาก ๆ

ปลูกผม เหมาะกับใคร

ผู้ที่เสียความมั่นใจจนเกิดอาการเครียดจากผมร่วง ผมบาง

ผู้ที่มีปัญหาผมร่วงผมบางจากกรรมพันธุ์ ฮอร์โมนที่ค่อนข้างหนัก ไม่มีเซลล์รากผมเหลืออยู่

ผู้ที่ไม่สามารถรักษาผมร่วงผมบาง ได้ด้วยวิธีการอื่น

ผู้ที่ต้องการรักษาอาการผมร่วง ผมบางอย่างถาวร และต้องการเห็นผลเร็ว

ผู้ที่ต้องการปลูกผมในที่ที่ผมไม่สามารถขึ้นได้แต่แรก เช่น หน้าผาก แผลเป็น

ข้อดีและข้อจำกัดสำหรับการปลูกผม ผู้หญิง และ ผู้ชาย

ข้อดีของการปลูกผมสำหรับผู้หญิง

แก้ปัญหาศีรษะเถิกโดยกำเนิด

ปกปิดรอยแผลเป็นจากอุบัติเหตุหรือการผ่าตัดบนหนังศีรษะ

แก้ปัญหาผมบางขั้นรุนแรง

ช่วยให้ผมดูหนาขึ้น

สร้างกรอบหน้า ทำให้หน้าดูเล็กลงโดยไม่ต้องศัลยกรรมผ่าตัดกราม ทุบหน้า ที่มีความเสี่ยงมากกว่าการปลูกผม

แก้ไขแนวผมให้ดูดีมากขึ้น อาจจะให้สมมาตรมากขึ้น

สร้างไรผมที่ดูเป็นธรรมชาติ

สร้างความมั่นใจให้ผู้ที่ทำ กล้าเข้าสังคมมากขึ้น

 

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับรักษา 2 สัปดาห์

1. ควรงดยาทุกชนิดที่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของเลือดและการขยายตัวของหลอดเลือด เช่น minoxidil ,Rogaine, แอสไพริน

2. งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่

3. งดวิตามินทุกชนิด เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา และสำหรับยาประจำตัวอื่นๆ สามารถทานได้ตามปกติ

การเตรียมตัวในวันปลูกผม

1. สวมเสื้อเชิ้ตติดกระดุมเท่านั้น, ทำความสะอาดศีรษะ และงดใช้อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมก่อนเข้ารับบริการ

2. งดกาแฟ 24 ชม. ล่วงหน้า

3. สวมเสื้อคุมที่ได้จากทางโรงพยาบาล

4. สามารถทานอาหารเช้าเบาๆ แต่ไม่ควรดื่มชาและกาแฟ

5. ไม่สวมเครื่องประดับใดๆ เช่น สร้อย ต่างหู เข็มขัด แหวน

ข้อปฏิบัติหลังจากปลูกผม

1. งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิดเป็นเวลา 2 สัปดาห์

2 .ลดการสูบบุหรี่

3. งดออกกำลังกายหนัก หรืองดเล่นกีฬาที่มีการกระทบกระแทก ประมาณ 2 สัปดาห์

4. งดว่ายน้ำ อบไอน้ำ และอบซาวน่า เป็นเวลา 1 เดือน

5. เลี่ยงการตากแดดเป็นเวลานานๆ หากจำเป็นควรสวมหมวกหรือกางร่มทุกคร้ังที่ออกแดด

6. หลังปลูกผมสามารถอาบน้ำ และล้างหน้าได้ตามปกติ

7. หลังปลูกผม 2 วัน สามารถสระผมได้ตามปกติ โดยสัปดาห์แรกใช้เป็นแชมพูอ่อนๆ และน้ำอุณหภูมิห้อง ห้าม แกะสะเก็ดแผลเด็ดขาด ให้สะเก็ดแผลหลุดเองโดยธรรมชาติภายใน 2 สัปดาห์

8. สามารถรับประทานอาหารไดทุกชนิด ยกเว้น ของทะเลและของหมักดอง ควรงดทาน 2 สัปดาห์

9. สามารถทำกิจวัตประจำวันได้ตามปกติ