คำถามที่พบบ่อย
การรักษาด้วยเซลล์บำบัดเหมาะกับทุกคนหรือไม่?
ไม่แน่เสมอไป เนื่องจากมีข้อห้ามบางประการซึ่งขึ้นอยู่กับภาวะร่างกายของแต่ละบุคคล ดังนั้นการตรวจร่างกาย และตรวจวิเคราะห์ ทางห้องปฏิบัติการจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการประเมินความพร้อมของร่างกาย และสภาวะเสี่ยงที่เป็นข้อห้ามต่างๆ เช่น มะเร็งหรือสภาวะติดเชื้อ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยและเตรียมความพร้อมให้แก่ท่าน
การทำเซลล์บำบัดได้ผลลัพธ์ที่ดีเหมือนกันทุกคนหรือไม่ ถ้าไม่ มีปัจจัยใดบ้างที่เป็นตัวกำหนด
ขณะนี้ยังไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมบางท่านจึงตอบสนองต่อเซลล์บำบัดได้ดี ในขณะที่บางท่านอาจไม่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงมากนัก เนื่องจากมีปัจจัยนานัปการเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่สันนิษฐานว่าความสมบูรณ์ของระบบภูมิคุ้มกันและพื้นฐานสุขภาพน่าจะเป็นตัวแปรสำคัญของประสิทธิภาพการรักษาที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
มีปัญหาสุขภาพอะไรบ้างที่ทำให้ประสิทธิภาพของการทำเซลล์บำบัดลดลง?
โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่มีสภาวะการอักเสบในช่วงที่อาการรุนแรงหรืออักเสบเฉียบพลันยังไม่ควรทำเซลล์บำบัด และผู้ป่วยโรคข้ออักเสบรูห์มาตอยด์ยังไม่ควรทำเซลล์บำบัดในช่วงที่มีอาการอักเสบรุนแรง นอกจากนี้ยังไม่ควรทำให้เซลล์บำบัดให้แก่ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์, ให้คีโม, หรือเป็นมะเร็งในช่วงที่มีอาการ
มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ โรงพยาบาล พานาซี พระราม2 จะปฏิเสธผู้ที่ไม่สามารถทำเซลล์บำบัดได้
มีความเป็นไปได้ที่ โรงพยาบาล พานาซี พระราม2 จำเป็นต้องปฏิเสธในกรณีที่ไม่สามารถทำเซลล์บำบัดให้แก่บุคคลนั้นๆ ได้ แต่อย่างไรก็ตาม การตรวจวินิจฉัยสุขภาพเบื้องต้นอย่างน้อย 1 เดือนก่อนการทำเซลล์บำบัดจะช่วยคัดกรองข้อห้ามต่างๆ ตลอดจนมีเวลาให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้วินิจฉัยและดูแลรักษาสุขภาพของท่านให้พร้อมรับการทำเซลล์บำบัดได้
ช่วงเวลาใดบ้างที่เหมาะสมที่สุดในการทำเซลล์บำบัด เพราะอะไร
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีช่วงเวลาใดเหมาะสมกว่ากันในการทำเซลล์บำบัด แต่แนะนำให้ทำการนัดหมายและสำรองที่พักล่วงหน้าเพื่อความสะดวกสบายของท่าน เนื่องจากการทำเซลล์บำบัดได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับเรื่องภูมิคุ้มกันของผู้ที่อาศัยอยู่ในทวีปยุโรป แนะนำให้ทำเซลล์บำบัดในช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วงก่อนเข้าสู่ฤดูหนาว
กระบวนการเตรียมเซลล์ตัวอ่อนของแกะสำหรับการทำเซลล์บำบัดเป็นอย่างไร
เซลล์ที่นำมาใช้จะผลิตจากศูนย์ปฎิบัติการมาตรฐาน GMP เพื่อให้ได้สารสกัดจากเซลล์ที่มีความบริสุทธิ์และปลอดภัยสูง ทั้งได้มีการเติมสารเร่งกระบวนการทำงานของเซลล์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา ผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้จึงมีปริมาณที่กำหนดตามมาตรฐานและมีคุณภาพทัดเทียมกัน
เซลล์ตัวอ่อนของแกะถูกปลูกถ่ายไปยังผู้รับได้อย่างไร
สารสกัดจากเซลล์ตัวอ่อนดังกล่าวจะถูกฉีดเข้าทางกล้ามเนื้อของผู้รับ ซึ่งเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด
เซลล์มนุษย์และเซลล์แกะมีโครงสร้างเหมือนหรือต่างกันอย่างไร และเซลล์ของแกะที่นำมาปลูกถ่ายจะสามารถผสานเข้ากับเซลล์ของมนุษย์ได้อย่างไร
เซลล์ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีลักษณะที่คล้ายคลึงกันหลายประการแต่ก็ไม่ได้เหมือนกันจนไม่สามารถแยกแยะได้ ทฤษฎีล่าสุดอธิบายว่าสารสกัดจากเซลล์ที่เข้าสู่ร่างกายจะนำสารอาหารที่จำเป็นต่อการฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ที่เสื่อมสภาพในร่างกายและ “ส่งสัญญาณ” ไปยังเนื้อเยื่อที่เสียหายหรือบาดเจ็บเพื่อเร่งกระบวนการซ่อมแซมเซลล์เหล่านั้น
ผลการรักษาจะเริ่มสังเกตหรือสัมผัสได้เมื่อไหร่
ส่วนใหญ่จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงประมาณ 2-6 สัปดาห์ หลังการทำเซลล์บำบัด ในบางท่านอาจสังเกตการเปลี่ยนแปลงหรือรู้สึกขึ้นในทันที ซึ่งจะคงอยู่ประมาณ 4-7 วัน
การทำเซลล์บำบัดจะทำให้ร่างกายของเราพึ่งพาเซลล์บำบัดไปตลอดหรือไม่ หากหยุดทำไปแล้วอวัยวะเราจะเสื่อมไปเลยหรือไม่
เราไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาเซลล์บำบัดไปตลอดชีวิต แม้ในช่วงที่ไม่ได้ทำเซลล์บำบัด ร่างกายของเราก็ยังมีกระบวนการฟื้นฟูซ่อมแซมต่อไปได้ ส่งผลให้สุขภาพดีขึ้นในระยะยาว แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าเซลล์เหล่านั้นก็ย่อมมีการเสื่อมภาพและหมดอายุขัยลงเช่นกัน จึงแนะนำให้ทำเซลล์บำบัดอย่างต่อเนื่องเพื่อคงไว้ซึ่งสุขภาพที่ดี
สุขภาพของผม/ดิฉันจะเป็นอย่างไร จะมีผลเสียร้ายแรงอะไรหรือไม่ หากไม่ได้ทำเซลล์บำบัดอย่างต่อเนื่อง
เนื่องจากแต่ละคนจะมีการตอบสนองต่อเซลล์บำบัดแตกต่างกันไป การทำเซลล์บำบัด 1 ครั้งอาจเพียงพอแล้วสำหรับบางท่าน แต่สำหรับบางท่านก็มีข้อบ่งชี้ในการทำเซลล์บำบัดซ้ำเพื่อรักษาสุขภาพในระยะยาวเช่นมีโรคประจำตัวที่ต้องทำการรักษา หรือมีปัญหาสุขภาพเรื้อรังมาเป็นระยะเวลานาน
ร่างกายของเรามีโอกาสที่จะทำปฏิกิริยารุนแรงหรือต่อต้านเซลล์ที่ได้รับหรือไม่
ถึงแม้จะมีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดอาการแพ้ในระหว่างการรักษา แต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ทำการป้องกันการเกิดปฏิกิริยาดังกล่าว รวมทั้งได้เตรียมพร้อมในการดูแลรักษาอย่างทันท่วงที หากผู้ที่ทำเซลล์บำบัดมีอาการแพ้เกิดขึ้น